โรตีเป็นขนมที่มีประวัติยาวนานและได้รับความนิยมในหลายประเทศทั่วโลก โดยเริ่มจากประเทศอินเดียและมีการปรับเปลี่ยนตามท้องถิ่นต่างๆ รวมถึงประเทศไทย
โรตีมีต้นกำเนิดในประเทศอินเดียและปากีสถาน โดยเริ่มต้นจากการทำแป้งสาลีผสมกับน้ำ แล้วนำไปย่างจนกรอบ รสชาติจะออกเค็มหรือเผ็ด และเป็นอาหารหลักของคนในพื้นที่
โรตีเริ่มแพร่หลายจากอินเดียและปากีสถาน ไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียใต้และตะวันออกกลาง และได้แพร่เข้ามายังประเทศไทยในช่วงสมัยการค้าขายระหว่างประเทศ
เมื่อโรตีเข้ามาถึงประเทศไทย มักจะเห็นการปรับเปลี่ยนจากการเป็นขนมปังแป้งแบนที่เรียบง่ายไปเป็นโรตีที่มีการเติมท็อปปิ้งหลากหลาย เช่น ไข่ น้ำตาล เนย และในบางที่อาจมีการทำโรตีชาชัก ซึ่งเป็นการดัดแปลงจากการดื่มชา
โรตีไม่เพียงแค่ได้รับความนิยมในประเทศไทย แต่ยังมีการดัดแปลงและรับประทานในหลายประเทศทั่วโลก โดยบางประเทศอาจมีวิธีการทำและวิธีเสิร์ฟที่แตกต่างกันไปตามวัฒนธรรมท้องถิ่น
ลักษณะ: โรตีเป็นอาหารหลักในครัวเรือนอินเดีย โดยมักจะเสิร์ฟร่วมกับแกงหรือดาล (เลนส์ตุ๋น)
วิธีการ:ใช้แป้งสาลีทำเป็นแป้งแบน แล้วนำไปย่างบนเตาไฟ
2)ประเทศปากีสถาน
ลักษณะ: โรตีในปากีสถานมีลักษณะคล้ายกับโรตีในอินเดีย แต่จะมีความหนากว่าและบางครั้งอาจทานคู่กับข้าวหรือเนื้อ
วิธีการ: มักใช้แป้งสาลีหรือแป้งข้าวโพดผสมกับน้ำและเกลือ จากนั้นย่างบนเตาหรือในเตาอบ
ลักษณะ: ในตุรกีมี “แลวาช” ซึ่งเป็นแป้งแบนที่คล้ายกับโรตีและใช้ในการทำ “โดเนอร์” (Kebab)
วิธีการ: ทอดแป้งแบนให้กรอบแล้วมักจะทานคู่กับเนื้อย่างหรือผัก
4)ประเทศมาเลเซีย
ลักษณะ: โรตีในประเทศมาเลเซียมีชื่อว่า “โรตีเปอร์ตี” หรือ “โรตีกลาตา” ซึ่งมีความกรอบและทานกับแกงหรือชีส
ข้อมูลเพิ่มเติม: โรตีในมาเลเซียมักจะถูกเสิร์ฟพร้อมกับชา “Teh Tarik” ซึ่งเป็นชาหวานที่ดึงดูดรสชาติได้อย่างดี
ลักษณะ: ในหลายประเทศในแอฟริกา เช่น เคนยา โรตีถูกเรียกว่า “Chapati” ซึ่งเป็นขนมปังแป้งแบนที่ใช้ในมื้ออาหารหลัก
วิธีการ: ใช้แป้งสาลีผสมกับน้ำและเกลือ แล้วนำไปย่างบนกระทะจนกรอบ
6)ประเทศอียิปต์
ลักษณะ: “อิจมะ” เป็นขนมปังแป้งแบนของอียิปต์ที่มีลักษณะคล้ายโรตี แต่จะมีขนาดใหญ่กว่าและบางกว่ามาก
วิธีการ: ย่างบนเตาหินร้อนๆ แล้วเสิร์ฟร่วมกับจานอาหารที่มีซอส